เรื่องนี้หาพระเอกไม่เจอ (ภาคมนุษย์) - นิยาย เรื่องนี้หาพระเอกไม่เจอ (ภาคมนุษย์) : Dek-D.com - Writer
×

    เรื่องนี้หาพระเอกไม่เจอ (ภาคมนุษย์)

    ถูกผิดยังแยกแยะมิได้ กล้าดีอย่างไรถึงชี้นำข้า....เทียนตี้ เทพศัสตรากล่าวด้วยเสียงเกรี้ยวกราด นางมองบุรุษตรงหน้าอย่างเกลียดชัง ภายในก็ชนึกขบคันระคนสมเพชตนที่ครั้งหนึ่งเคยลุ่มหลงบุรุษผู้นี้

    ผู้เข้าชมรวม

    1,707

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    1.7K

    ความคิดเห็น


    53

    คนติดตาม


    56
    จำนวนตอน :  36 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ก.พ. 64 / 19:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             



          นิยายเรื่องนี้หนักไปทางรักดราม่านะคะ  (แจ้งไว้ก่อนจ้า)  อาจมีบทวาบหวิวอยู่บ้างประปราย  เนื้อเรื่องเน้นไปทางแก้แค้น   เพราะฉะนั้นตัวเอกอย่างหมิงหลันอาจเป็นนางเอกหรือนางร้ายในสายตาคุณก็ได้    เรื่องสถานที่หยิบยกขึ้นมาเลาในเรื่องไม่มีจริงไม่ได้อิงอะไรเลยหวังว่าผู้อ่านจะไม่ถือสานะคะ   ตอนนี้เริ่มไล่แก้สำนวนใหม่ปรับเปลี่ยนโครงเรื่องให้กระชับ

              ๐๐๐๐๐ตัวละครทุกตัวและสถานที่ล้วนสมมติขึ้นมาค่ะ๐๐๐๐๐๐


         คำโปรย

               สวรรค์สร้างนางขึ้นมาเพื่อเชื่อมเคราะห์กรรมระหว่างจอมมาร มิรัก มิอาจเคียงคู่ มิอาจหลุดพ้น ความหยิ่งทนงของนางจะหลุดจากบัญชาสวรรค์ได้หรือไม่  

                        “ถูกผิดยังแยกแยะมิได้  กล้าดีอย่างไรถึงชี้นำข้า....เทียนตี้”

           หมิงหลันประกาศกร้าวดังก้องไปทั่วพื้นพิภพ   สายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างหยิ่งทนง    สองมือบางจับดาบแน่นเตรียมฟาดฟันศัตรูที่อยู่ตรงหน้าให้ดับสูญ    จิตใจที่แหลกลาญเพราะบุรุษผู้นั้นพลักดันให้นางก่อสงครามกับสวรรค์ 

                   “ข้าไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อท่าน   เลือกเอาหากวันนี้ไม่ปล่อยข้าไป.....ก็ยกดาบออกมาหยุดข้า”   นางเอ่ยขึ้นก่อนเดินหันหลังจากไป    คำกล่าวสุดท้ายที่นางฝากไว้คือคำบอกลาอย่างสันติ   คือสิ่งที่นางยอมถอยเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขาครั้งสุดท้าย    

                   บุรุษอาภรณ์ขาวยื่นนิ่งงันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   เขาไม่อาจปล่อยวางสตรีที่ตนรักไปได้  แต่ก็ไม่อาจฉุดรั้งนางต่อไปได้อีกเช่นเดียวกัน 

                    “เทียนตี้”  เสียงเข้มดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด   เทพสงครามหานตงเอ่ยเรียกพร้อมคุกเข่าคาราวะบุรุษอาภรณ์ขาวตรงหน้า  

                   บุรุษอาภรณ์ขาวค่อยๆปรายตากลับมามองอย่างช้าๆ   ดวงตาเยือกเย็นส่งต่อความกดดันให้เทพสงครามจนเขาต้องลดหน้าก้มลง  

                   “ปล่อยหรือ.....ตั้งแต่ที่เจ้าเลือกไปจากข้า.......สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้วหมิงหลัน”  เสียงเย็นยะเยือกเค้นผ่านลำคอด้วยความเครียดแค้น   ยามนี้ความสุขุมที่เคยมีเลือนหายไปจนสิ้น   บุรุษที่เคยอบอุ่นเริ่มร้อนลุ่มยิ่งกว่าเปลวเพลิงโลกันตร์   เขาเลือกที่จะก่อสงครามกับจอมมารจิ้นสิงอีกครั้ง   

                   ชีวิตที่ถูกกำหนดโดยโชคชะตาแห่งเคราะห์กรรมจะเป็นเช่นไร   บุณคุณ   ความแค้น   ความรัก  ความลุ่มหลง   เชื่อมโยงชะตาของทั้งสี่ไว้คลายปมที่ไม่มีวันแก้




                   แนะตัวละคร

         ปฐมเทพฮุ่ยเหอ    เทพที่สามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ   ความลับสวรรค์ที่เขาล่วงรู้ทำให้หวาดกลัวอนาคตที่กำลังเกิดขึ้น   ความเมตตา  ความห่วงหา  พลักดันให้เขาพยายามเปลี่ยนแปลงอนาคต    แม้จะถูกสวรรค์ลงโทษก็ยินยอม     ปฐมเทพฮุ่ยเหออายุยืนยาวมากกว่าห้าหมื่นปี  รูปทรงอ้วนท้วม  ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา  สีผิวที่ดำละเอียดกับสีผมที่ขาวโผนดั่งหิมะหนุนส่งความน่านับถือให้เขามากทีเดียว   ร่างเติมของเขาเป็นเต่ายักษ์บริวารของเทพแห่งน้ำ นามเสวี่ยนอู่  หลังจากเกิดสงครามระหว่างเทพแห่งไฟและเทพแห่งน้ำ    เขาก็หลีทางโลกหลบกายซ่อนตนอยู่บนหุบเขาเหลียงซาน *ปัจจุบันรู้จักในชื่อ เกราะไร้นาม*   ก่อตั้งสำนักไร้นามปฏิญาณตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับสามภพ   มีศิษย์ลูกศิษย์ทั้งหมดสี่คน




    ศิษย์เอก หยางเกา   บุรุษที่เชื่อมั่นในอุดมคติของตน   ความสุขุมที่แฝงได้ด้วยความเยือกเย็นถูกเก็บซ่อนอยู่ในกายไม่มีผู้ใดล่วงรู้    เขาเป็นคนแน่วแน่หากมีจุดประสงค์อันใดต้องฝ่าฟันทำให้สำเร็จ   หยางเกาเข้ามาอยู่ในสำนักคนเเรกด้วยการฝากฝังของเทพสวรรค์ชั้นสูงผู้หนึ่ง   ต้นกำเนิดของเขายังเป็นปริศนา  การดำรงอยู่เรียบง่าย   เขาฝักใฝ่ตำราธรรมและกลศึกยุทธศาสตร์   นานวันจึงจมอยู่ในหอคัมถีร์ไม่สุงสิงกับศิษย์ใด   ยกเว้นศิษย์น้องเล็กที่แวะเวียนมาหยอกล้อเขาเป็นประจำ   ด้วยรูปร่างที่สูงสง่า   ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูอบอุ่นและรอยยิ้มอ่อน   ทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูใจดี ดูปลอดภัย เมื่อยามอยู่ใกล้

         ศิษย์อันดับสอง เยว่ฉี   ถูกขนาดนามว่า สตรีที่งดงามที่สุดในสามภพ   ทั้งร่างระหงที่สมส่วนชวนฝัน  ทั้งกริยาที่เพียบพร้อมชวนเคลิ้ม  ทำให้นางได้ฉายานามนี้มาโดยง่าย  เดิมเยว่ฉีเกิดในเผ่าหงส์แดง แต่กลับไร้วาสนา   ในยามที่นางเกิดกลับไร้ขนแลดูน่ารังเกลียด  เผ่าหงส์แดงยึดถือความเพียบพร้อมยิ่งนักจึงขับไล่นางออกจากเผ่า   ความเจ็บปวดในครานั้นส่งผลให้นางมีจิตใจที่อ่อนแอไร้ความเชื่อมั่น  ไม่กล้าเผชิญกับเรื่องต่างๆ    ปฐมเทพฮุ่ยเหอเวทนาต่อเคราะห์กรรมของนางจึงรับนางเข้าเป็นศิษย์ของตน  และพร่ำสอนวิธีปรุงยาจากดอกไม้ให้นาง

         ศิษย์อันดับสาม จิ้นสิง  ร่างกายกำยำ  สีผิวออกคล้ำไม่ขาวผุดผ่องดังคนทั่วไป  ใบหน้าคมคายบรับกับดวงตาสีเทาหม่นแลดูชวนหลงไหล    เขาเป็นคนดื้อรั้นไม่เชื่อฟังใครง่ายๆ  แต่ก็ฉลาดพอที่รู้ว่าเวลาใดควรลุกเวลาใดควรถอย   สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดคือวางค่ายกล   เขตอาคมที่เขาสร้างขึ้นล้วนแต่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ง่าย   อีกทั้งสมองยังเต็มไปด้วยเหล่เหลี่ยม   เขาไม่ละอายหากต้องลวงหลอกผู้อื่นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ   แต่แล้วความเจ็บปวดในอดีตก็ทำให้เขาตั้งสินใจผิดพลาดจนก่อสงครามอันยิ่งใหญ่ขึ้น   สงครามในครานี้ไม่เพียงแต่พรากชีวิตผู้คนมากมาก   แต่มันยังพรากจิตวิญญาณเสี้ยวสุดท้ายของเข้าไปด้วย 

    หลังจบศึกจิ้นสิงกลับคืนร่างเดิม  รูปร่างของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง   จากผิวที่เคยดำคล้ำก็ขาวซีดไร้เลือด  ผมที่ดำขลับก็ถูกแทนที่ด้วยสีเงินมันวาวทั้งหมด    เหลือไว้เพียงดวงตาที่ยังคงเป็นสีเทาเพิ่มประกายสีฟ้าแลดูมีชีวิตมากขึ้น

         ศิษย์อันดับสี่ หมิงหลัน  รูปร่างเล็กกว่ามาตรฐานหญิงทั่วไป  ใบหน้าที่ดูอ่อนหวานมักจะทำให้คิดว่านางยังเป็นเด็กอยู่เสมอ  ผิวขาวเนียนละออดุจไข่มุกเม็ดงาม  ดวงตากลมโตเป็นประกายใสดั่งหยกน้ำ  จมูกเรียวเล็กรับกับปากที่อวบอิ่มสีแดงระเรื่อ  เครื่องหน้างดงามเหนือสตรีอื่น   แต่นิสัยแปลกประหลาดเดาทางยากกับความดื้อรั้นที่ชอบกลั้นแกล้งผู้อื่นจึงไม่มีสหายมากนัก   มีเพียงแต่จิ้นสิงที่เป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เล็กจนโต    หมิงหลันกำเนิดจากปราญหินทั้งห้าของเจ้าแม่หนี่วาส่งผลให้นางสามารถสร้างสรรค์ศัสตราวุธที่มีอนุภาพร้ายกาจออกมาได้อย่างมากมาย



         


    sds


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น